วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

ผลกระทบต่อโครงข่ายเดิม


เทคโนโลยีการสร้างระบบเครือข่ายผ่านทางระบบสายไฟภายในบ้านซึ่งเป็นระบบเครือข่ายที่ใช้สายไฟฟ้าเป็นเส้นทางสื่อสารข้อมูล ระหว่างคอมพิวเตอร์ สามารถสร้างระบบเครือข่ายภายในบ้านสำหรับการสื่อสารข้อมูลขึ้นมาใช้งานได้ทันที กล่าวได้ว่า ถ้าส่วนไหนภายในบ้านเรามีปลั๊กก็จะสามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้โดยไม่ต้องเสียค่าติดตั้งสายสัญญาณ
การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในบ้านส่วนใหญ่จะใช้ระบบ ADSL จากผู้ให้บริการซึ่งมีด้วยกันหลายราย โดยติดตั้ง ADSL MODEM ก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ แต่ถ้าต้องการให้ห้องทุกห้องสามารถใช้สายไฟฟ้าในการต่ออินเทอร์เน็ตในกรณีที่เป็นหอพักหรือโรงแรมที่มีจำนวนห้องมาก ๆ ก็ต้องใช้ระบบเครือข่ายผ่านทางระบบสายไฟภายในบ้าน ปัจจุบันการใช้อินเทอร์เน็ตมีความจำเป็นมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การติดต่อ สื่อสารหรือความบันเทิง ซึ่งได้สอดแทรกเข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้น กิจการหอพัก คอนโดมิ เนียม หรือโรงแรม ธุรกิจเหล่านี้มีการแข่งขันกันมากขึ้น การให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็เป็น การบริการลูกค้าที่ทันต่อยุคสมัย โดยการลงทุนที่ไม่สูง ไม่ต้องเดินสายสำหรับเครือข่ายภายใน สามารถใช้สายไฟฟ้าที่มีอยู่ในห้องพักและเพิ่มเติมอุปกรณ์เฉพาะที่ต้นทางและปลายทาง

โครงข่ายเดิมนั้นจะเป็นแบบลักษณะการเชื่อมต่อโดยผ่านทางสายโทรศัพย์หรือถ้าเป็นการเชื่อมต่อกันระหว่างคอมพิวเตอร์ก็จะผ่านสาย สาย LAN ที่เชื่อมกันโดยผ่าน Router หรือจะใช้เป็น Wireless LAN หรือจะเป็น มาตรฐานของ HomePNA ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับ LAN โดยจะนำข้อมูลระบบที่ใช้ต่างๆ มาเปรียบเทียบดังนี้

- Ethernet , Fast Ethernet , Ethernet 10/100
ความเร็ว : Ethernet 10 Mbps, Fast Ethernet 100 Mbps, Ethernet 10/100 Mbps 10 Mbps and 100 Mbps
อุปกรณ์นำสัญญาณ : สาย UTP
ระยะทาง : 328 ฟุต (จากเครื่องคอมพิวเตอร์ถึง HUB)
จำนวนอุปกรณ์สูงสุดที่ต่อได้ : ไม่กำหนดจำนวนสูงสุด
เน็ตเวิร์กการ์ดที่ใช้ : ISA และ PCI adapters, 16-bit PC Card และ 32-bit CardBus PC Card, และ USB adapters
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ : HUB หรือ Network Switch
ข้อดี : ลงทุนต่ำ, ความเร็วสูง และเป็นเทคโนโลยีที่ใข้กันอย่างแพร่หลาย มีความเสถียรอยู่ในระดับที่ดี
ข้อเสีย : การเชื่อมต่อแบบใช้สายเคเบิล ต้องมีการจัดการเรื่องการวางของเครื่องคอมพิวเตอร์ การอัพเกรด Slot ในการใส่เน็ตเวิร์กการ์ด และการเพิ่มจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็เป็นการเพิ่มการใช้สายเคเบิล ไปพร้อมกันด้วย

- HomePNA 1.0 , HomePNA 2.0
ความเร็ว : HomePNA 1.0 1 Mbps, HomePNA 2.0 ความเร็ว 10 Mbps
อุปกรณ์นำสัญญาณ : สายโทรศัพท์ภายในบ้าน ผ่านหัว RJ-11
ระยะทาง : 1000 ฟุต
จำนวนอุปกรณ์สูงสุดที่ต่อได้ : 50 อุปกรณ์ที่ยังสามารถทำงานได้ที่ 10 Mbps
เน็ตเวิร์กการ์ดที่ใช้ : PCI adapters; USB adapters เพราะขณะนี้ ยังไม่มีอุปกรณ์เฉพาะ
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
ข้อดี : สะดวกในการเชื่อมต่อ และไม่ต้องลงทุนสูง
ข้อเสีย : ถ้าในกรณีของโทรศัพท์หลายสายผ่านแจ็คตัวเดียวกัน จะต้องใช้ ตัวแยกสัญญาณ, ความเร็วที่ได้ไม่มากนัก

- IEEE 802.11 Wireless
ความเร็ว : IEEE 802.11b = 11 Mbps ; IEEE 802.11g และ 802.11a = 54 Mbps
อุปกรณ์นำสัญญาณ : ย่านความถี่คลื่นวิทยุ 2.4 GHz (802.11b , 802.11g) ย่านความถี่คลื่นวิทยุ 5 GHz (802.11a)
ระยะทาง : 25-500 เมตร
จำนวนอุปกรณ์สูงสุดที่ต่อได้ : 128
เน็ตเวิร์กการ์ดที่ใช้ : PCI adapters; USB adapters
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
ข้อดี : สามารถได้ใน Location แบบไหนก็ได้ แต่ภายในระยะ 25-500 เมตร, ความเร็วค่อนข้างสูงสำหรับเทคโนโลยี Wireless Network
ข้อเสีย : ลงทุนสูง

- Powerline Home Plug จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบ PLC
ความเร็ว : 14 Mbps
อุปกรณ์นำสัญญาณ : ผ่านสายไฟฟ้าภายในบ้าน
ระยะทาง: ไกลเท่าไรก็ได้ขอแค่เป็นสายไฟในวงจรเดียวกัน
จำนวนอุปกรณ์สูงสุดที่ต่อได้ : ไม่กำหนด
เน็ตเวิร์กการ์ดที่ใช้ : ยังไม่มีผลิตออกมาเฉพาะ
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ : ไม่มี
ข้อดี :
- สายไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานภายในบ้าน ทำให้สะดวกในการเชื่อมต่อ
- การเชื่อมต่อระหว่างห้องไม่ต้องเจาะผนังอาคารให้การตกแต่งเสียหาย- การเชื่อมต่อระหว่างชั้นของตึกทำได้ง่ายโดยไม่ต้องแก้ไขโครงสร้าง
- สามารถติดตั้งใช้งานเป็นการชั่วคราวได้ เคลื่อนย้ายสะดวก ง่ายต่อการที่ต้องย้ายจุดทำงานบ่อยๆ
- ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟใหม่ เพียงติดตั้งก็ใช้งานได้ทันที
- ติดตั้งง่าย รวดเร็ว และสะดวกสบาย
- ราคาประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าติดตั้ง ค่าเดินสาย
- รองรับอุปกรณ์ต่อเชื่อมได้หลายชนิด เช่น เครื่องพิมพ์หรือเครื่องใช้อื่นๆไม่จำเป็นต้องต่อสายตรงเข้าที่คอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องมีการ์ด เพื่อติดตั้งเข้าไปในคอมพิวเตอร์ แม้ว่าระบบภายในบริษัทจะอยู่บนพื้นฐานของ PCI
- ปัจจุบันสามารถทำความเร็วในการเชื่อมต่อได้ที่ 14 Mbps และในอนาคตจะเชื่อมต่อได้ที่ 100 Mbps
ข้อเสีย : ยังมีเรื่องของสัญญาณรบกวน และความปลอดภัยที่ต้องคำนึงถึง

ถ้าถามว่าจะมีผลกระทบต่อโครงข่ายเดิมหรือไม่นั้น ก็คือจะใช้ระบบเครือข่ายผ่านทางระบบสายไฟภายในบ้านมีความสะดวกกว่าระบบเดิมมากขึ้น เนื่องจากเพียงเสียบปลั๊กสามารถทำงานได้ (อุปกรณ์ Homeplug) และเมื่อต้องการย้ายจุดติดตั้ง สามารถถอดปลั๊ก และเสียบปลั๊กที่จุดติดตั้งใหม่ได้ทันที จะช่วยลดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แล้วประหยัดเวลาได้ แต่อาจมีปัญหาอื่นตามมา เช่น ประสิทธิภาพการสื่อสารข้อมูลของระบบลดลงหากติดตั้งและใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์จำนวนมากในระบบ หรือการเกิดสัญญาณรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ใช้สายไฟฟ้าอยู่พร้อมกับตัวระบบ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้ในบ้านที่จะต้องคำนึงถึง Application ที่จำเป็นต้องใช้ และข้อดีข้อเสียของเทคโนโลยีแต่ละแบบด้วย รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับกลับมา ที่สำคัญคงต้องมองถึงจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเงินให้ได้มา เพื่อความคุ้มค่าให้มากที่สุด

อ้างอิง
Home networking เรื่องจริง!! ที่คุณต้องรู้ โดย Ms.Blue
http://www.thaiinternetwork.com/content/detail.php?id=0145

ระบบเครือข่ายใช้สายไฟฟ้า (Powerline Networking) โดย wu mit9
http://www.vcharkarn.com/varticle/17795/1

ไม่มีความคิดเห็น: